ในยุคที่การทำงานในออฟฟิศกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของหลายคน อาการที่เกิดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานานหรือการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่น่าเป็นห่วงได้ หากไม่ระวังหรือดูแลอย่างเหมาะสม อาการเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเราได้อย่างมาก ดังนั้นการทำกายภาพบำบัดจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดอาการและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้

อาการปวดหลังเรื้อรัง

ไมเกรนเป็นอาการปวดศีรษะที่มีความรุนแรง มักเกิดขึ้นที่ด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะ ร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และมีความไวต่อแสงและเสียง มลภาวะทางเสียง (noise pollution) อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดอาการไมเกรนได้ แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่ปวดศีรษะจากมลภาวะทางเสียงจะเป็นไมเกรนเสมอไป

ข้อแตกต่างระหว่างปวดศีรษะทั่วไปและไมเกรน

การลดการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่อาจส่งผลกระทบต่อการเกิดไมเกรนอาจช่วยลดอาการของบางคนได้ H8 Clinic ขอพาคุณมาดู 5 รายการอาหารหรือเครื่องดื่มที่ควรพยายามหลีกเลี่ยงหากไม่อยากมีปัญหาเรื่องไมเกรน มีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลยค่ะ

อาหารที่มีกาแฟและกาแฟอินทรีย์: ควรลดหรือหลีกเลี่ยงการบริโภคกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีกาแฟ เช่น ชาเขียว โดยเฉพาะในปริมาณมาก เนื่องจากกาแฟอาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดไมเกรนในบางคน

การนอนไม่หลับหรือหลับๆตื่นๆ เป็นประจำนอกจากจะทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอแล้ว อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายในหลายๆ ด้าน H8 Clinic ขอชวนคุณมาดูผลกระทบจากอาการนอนไม่หลับ ว่ามีอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

ระบบภูมิคุ้มกันลดลง การนอนไม่เพียงพออาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง ซึ่งอาจทำให้เสี่ยงต่อการป่วยและติดเชื้อได้ง่ายขึ้นค่ะ

อาการปวดหัวเนื่องด้วยอากาศร้อน หรืออยู่ท่ามกลางแดดร้อนๆเป็ยระยะเวลานานๆ เป็นการปวดศีรษะแบบปฐมภูมิ เช่น ปวดหัวไมเกรน เป็นอาการปวดหัวชนิดหนึ่ง มีลักษณะอาการปวดตุบๆและมักเป็นข้างเดียว โดยอาการดังกล่าวจะกำเริบขึ้นเมื่อมีปัจจัยบางอย่างมากระตุ้น เช่น อากาศร้อนมาดูกันว่าอาการปวดหัวที่เกิดขึ้นจากอากาศร้อนนั้นมีสาเหตุจากอะไรบ้าง

ขาดน้ำ การขาดน้ำสามารถทำให้ร่างกายขาดน้ำและเกิดอาการปวดหัวได้ อากาศร้อนสามารถทำให้ร่างกายเสียน้ำได้มากขึ้น ดังนั้นการดื่มน้ำเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันอาการนี้

การดูแลตัวเองเมื่อปวดหัวจากความเครียดเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากความเครียดอาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของคุณ นี่คือขั้นตอนที่อาจช่วยให้คุณผ่อนคลายและบรรเทาอาการปวดหัว

พักผ่อนและนอนพัก: หากคุณรู้สึกตึงเครียดหรือมีอาการปวดหัวเนื่องจากความเครียด ลองพักผ่อนและนอนพักเพียงพอ การนอนพักอาจช่วยลดอาการปวดหัวและเพิ่มความสมบูรณ์ของร่างกายของคุณ 

การฝึกหายใจลึกๆ: การฝึกการหายใจลึกและช้าๆ อาจช่วยลดความเครียดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ให้ลองหายใจเข้าให้ช้าๆ ด้วยการนับถึงสามแล้วหายใจออกจนถึงสามอีกครั้ง ทำซ้ำไปเรื่อยๆ 

อาการของออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ที่ถือว่ารุนแรงสามารถแบ่งออกเป็นหลายอาการได้ โดยส่วนมากเกิดจากการใช้งานคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาการที่รุนแรงอาจมีดังนี้

อาการปวดหลัง ปวดหลังเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดในออฟฟิศซินโดรม อาจเกิดจากการนั่งโดยไม่เปลี่ยนท่าเป็นเวลานานๆ หรือจากการนั่งที่ไม่ถูกต้องค่ะ

อาการปวดคอและหลังศีรษะ อาการเจ็บคอและหลังศีรษะสามารถเกิดจากการกดเกร็งกล้ามเนื้อคอหรือหลังศีรษะในระยะยาว ซึ่งสามารถเกิดจากการงอหรือหมุนคอเป็นเวลานานๆ เป็นอีกหนึ่งอาการของออฟฟิศซินโดรมที่ควรเฝ้าระวังค่ะ

ไมเกรน ใครว่าเป็นโรคที่ไกลตัว รู้หรือไม่ว่าคนในสังคมปัจจุบันมีอัตราการป่วยหรือเป็นโรคไมเกรนกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยที่เกิดจากสภาพแวดล้อม การทำงานที่กดดัน หรือมลภาวะจากสิ่งรอบข้าง ก็เป็นสาเหตุในการเกิดโรคไมเกรนได้ค่ะ มาดูกันว่าใครบ้างที่มีความเสี่ยงเป็นโรคไมเกรนกันค่ะ

กลุ่มคนต่างๆ ที่มีความเสี่ยงเป็นไมเกรนได้สูงกว่าคนปกติได้แก่
บุคคลที่มีประวัติคนในครอบครัวที่มีไมเกรน คนที่มีคนในครอบครัวเป็นไมเกรนมีโอกาสสูงที่จะพบกับการเป็นไมเกรนเช่นกัน เพราะความผิดปกติทางพันธุกรรมอาจถูกสืบทอดได้ค่ะ

อาการนอนไม่หลับ อาการยอดฮิตที่ใครหลายๆ คนประสบพบเจอ แต่รู้หรือไม่หากเราอดนอนหรือมีภาวะนอนไม่หลับเป็นเวลานานอาจส่งผลเสียที่ร้ายแรงต่อร่างกายของคุณ มาดูผลเสียของการนอนไม่หลับและการจัดการกับปัญหานอนไม่หลับกันค่ะ

การนอนไม่หลับอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมากเช่นกัน ต่อไปนี้คือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

อารมณ์แย่และภาวะเครียด การนอนไม่หลับสามารถทำให้คุณรู้สึกวิตกกังวลและเครียดมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่ออารมณ์ที่แย่ลง ความเสียหายจิตใจ เศร้าหมองคล้ำ และเป็นภาวะวิตกกังวลเรื้อรังค่ะ

สำหรับใครที่เป็นออฟฟิศซินโดรม หนึ่งในอาการที่พบกันได้บ่อยนั่นก็คือ อาการปวดหลัง ซึ่งใครที่นั่งหน้าจอเป็นเวลานานๆ หรือยกของหนักมากๆ จะพบกับอาการนี้ได้ แต่สำหรับอาการปวดหลังนี้ถือเป็นอาการที่ค่อนข้างอันตรายเพราะบางครั้งหากไม่ใช่อาการของออฟฟิศซินโดรม มันอาจจะเป็นเกี่ยวกับหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นออฟฟิศซินโดรมหรือหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท